วันนี้นำเกร็ดความรู้จากประสบการณ์ตรงมาฝากนะคะ
เน้นเรื่องอาหารค่ะ เพราะมีผลต้อลูกสัตว์มากๆ
เนื่องจากลูกสัตว์อายุน้อยๆบางตัวยังมีระบบย่อยไม่สมบูรณ์
บางตัวแพ้อาหารบางประเภท ซึ่งเจ้าของควรสังเกตุและจดจำ
และเมื่อเห็นว่าแพ้ หรือกินแล้วแสดงอาการไม่ปกติออกมา
เช่น ท้องเสีย ท้องอืด(ไม่ถ่าย) ซึม ไม่ควรจะให้กินของนั้นซ้ำอีก
และอาหารบางประเภทก็ไม่ควรให้ลูกสัตว์เล็กๆกิน
จำไว้ว่า
" ไม่มีอาหารใดดีเท่านมแม่ของลูกสัตว์ประเภทนั้นๆ"
ลูกกระต่าย
เราทราบดีกันแล้วว่าลูกกระต่ายค่อยข้างเปราะบางต่ออาหารการกินมาก
แค่ช็อคโกแล็ตเพียงชิ้นเล็กๆ อาจทำให้ถึงตายได้เลยทีเดียว
เมื่อเราได้ลูกกระต่ายมาใหม่ๆ
สิ่งที่ไม่ควรเลยคือ
1. ขนมต่างๆของเรา
เข้าใจคะว่าสายตาวิงวอนอย่างน่ารักๆเป็นยังไง แต่ต้องใจแข็งไว้ค่ะ
เพื่อน้องกระต่ายจะเติบโตต่อไป
2. ผลไม้ งดได้งดเลยค่ะ โดยเฉพาะผลไม้หวานๆ และน้ำมากๆ เช่น แตงโม
จนกว่ากระต่ายจะมีอายุ 4 เดือนขึ้นไป
ยกเว้นลูกกระต่ายจะกินพร้อมอมแกระต่าย ซึ่งหมายความว่าลูกระต่ายนั้นกินนมแม่กระต่ายด้วย
และก็กินอาหารตามแม่กระต่ายด้วย
3. ผักสด
กระต่ายสามารถกินผักได้ค่ะ แต่ลูกกระต่ายยังไม่เหมาะนัก เนื่องจากระบบย่อยต่างๆยังไม่สมบูรณ์ ยิ่งผักที่มีนำมากๆ เช่น แตงกวา และผักที่มีการใช้ยาฆ่าแมลง
แม้แต่การให้หญ้าก็ควรเลือกหญ้าที่สะอาดและไม่ชุ่มน้ำจนเกินไป สำหรับลูกกระต่าย หญ้าแห้งจะดีที่สุด การให้หญ้าควรระวัง หญ้าเพิ่งใส่ปุ๋ย ยาฆ่าหญ้า พยาธิที่อาจติดมากับหญ้า ฯลฯ
ลูกกระรอก
สำหรับลูกกระรอก อัตราการตายสูงสุดมักมาจากอาหาร และอุณหภูมิของห้องที่เลี้ยง
การให้อาหารที่ถูกต้องจะทำให้ลูกกระรอกโตเร็ว และแข็งแรง
อาหารที่ควรเลี่ยง
1. ผลไม้น้ำเยอะๆ
เช่น แตงโม แตงกวา ฯลฯ จำเป็นต้องให้ผลไม้ลูกกระรอก ที่ดีที่สุดคือกล้วยน้ำว้า
2. นมวัว
เลี่ยงได้เลี่ยงเลยนะคะ ลูกกระรอกบางตัวกินได้ค่ะ
แต่ส่วนใหญ่จะกินแล้วท้องเสียเนื่องจากย่อยยาก และบูดง่าย
ให้เหมาะสมอาจให้เป้นนมทดแทนสำหรับลูกสัตว์ เช่น KMR หรือ Esbilac ดีกว่า
แต่ถ้ามันหาไม่ได้จริงๆ ซิลิแล็ก กล่องเล็กๆก็ทำให้กระรอกโตขึ้นมานักต่อนักแล้ว
แม้ว่าน้ำตาลจะเยอะไปหน่อย คุณค่าทางอาหารแย่ไปนิด
แต่หาง่าย ซื้อง่าย และไม่ค่อยมีปัญหามากนัก
แฮมสเตอร์
ในกลุ่มแฮมสเตอร์ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอาหาร เลี้ยงง่าย
แต่ก็มีอาหารที่ควรระวัง เช่นอาหารหมดอายุ
อาหารเค็มมากๆ อาหารมันจัด ซึ่งส่งผลร้ายต่อแฮมสเตอร์มากกว่าผลดีนะคะ