หัวข้อ :ทรมานสัตว์
21/03/2011
, 08:59
Quote
เช้าวันนี้แม่เอมมี่ขอตั้งหัวข้อเรื่องที่หดหู่ใจไปสักหน่อย แต่ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น สำหรับแม่เอมมี่แล้ว แม่เอมมี่ว่ามันเป็นการทารุณสัตว์ และขอประนามการกระทำดังกล่าว (แอบสาปแช่ง) เริ่มจากเมื่อตอนบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมาขณะที่แม่เอมมี่กำลังขับรถไปห้างฯ ก็สังเกตุเห็นว่าบนพื้นถนนมีคล้ายๆเหมือนก้อนดินหล่นอยู่บนพื้นและตามไหล่ทางเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่สังเกตุจะเห็นว่าเหมือนเป็นก้อนดิน แต่พอแม่เอมมี่ขับรถมาใกล้ๆ เจ้าก้อนที่เห็นว่าเหมือนเป็นดินกลับดิ้นกุกกัก กุกกัก อยู่บนพื้นถนน แม่เอมมี่เลยชะลอรถเพื่อมองดูให้แน่ใจว่าคืออะไร ปรากฏว่าที่นอนกันเกลื่อนถนนนั่นคือปลาค่ะ ปลาอะไรแม่เอมมี่ไม่ทราบหรอกนะคะ แต่คิดว่ามันไม่น่าจะใช่ปลาที่จับมาเป็นอาหารได้ลักษณะตัวมันจะมีหนาม มีคีบอยู่บนลำตัวพอสมควรค่ะ คาดว่ามันน่าจะอาศัยอยู่สองข้างทางที่เป็นคลองตลอดระยะทาง 5-6 กิโลเมตรนั้น เนื่องจากแม่เอมมี่เห็นมีชาวบ้านมาจับปลาสองข้างทางที่เป็นลำคลองเป็นจำนวนมากทั้งตกเบ็ด ทอดแห ที่สำคัญแม่เอมมี่คิดแล้วจอดรถไว้ข้างทางทันที คิดว่ามันมาอยู่บนถนนและตามไหล่ทางได้อย่างไรมองจากภาพแล้วลักษณะเหมือนมีคนเหวี่ยงมันขึ้นมาเนื่องจากมันเป็นปลาที่ไม่น่าจะกินได้ อาจจะติดแหขึ้นมาแล้วเห็นว่ากินไม่ได้จึงเหวี่ยงไปทั่วแทนที่จะเหวี่ยงมันลงน้ำกลับไปอย่างเดิมเพื่อให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปของมัน แต่กลับเหวี่ยงมันขึ้นมาไว้บนถนนที่มีอุณหภูมิสูง และเสี่ยงต่อการถูกรถทับเป็นอย่างมาก แน่นอนค่ะปลาจำนวนมากที่ถูกเหวี่ยงขึ้นมาแล้วถูกรถที่วิ่งไปมาทับตาย บางตัวก็นอนดิ้นอยู่บนถนนและตามไหล่ทาง แม่เอมมี่อยากให้ลองนึกภาพตามกันดูนะคะว่ามันโหดร้ายขนาดใหน ปลาอาศัยอยู่ตามลำคลองตามปกติแต่กลับถูกเหวี่ยงขึ้นมาบนถนนเพื่อให้รถทับ เพียงเพราะเขากินไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ จากนั้นแม่เอมมี่ก็เลยหาแก้วน้ำพลาสติกที่ตกอยู่แถวนั้นได้มา 1 ใบ ก็พยายามไปช้อนเจ้าปลาที่นอนดิ้นอยู่บนถนนเฉพาะตัวที่มันยังไม่ตาย แล้วก็จับมันลงน้ำไปอย่างเดิม เวลาจับต้องคอยมองรถ คอยโบกรถให้หยุดก่อนด้วยค่ะ เพราะอันตรายมาก รวมทั้งตามไหล่ทางที่เห็นว่ามันยังมีชีวิตอยู่นับๆได้ก็ประมาณเป็นสิบๆตัวค่ะ ที่ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ทันก็ตายไปเยอะมากค่ะ จากนั้นแม่เอมมี่ก็ไล่ถามกลุ่มพวกที่จับปลาอยู่แถวนั้นว่าใครเป็นคนทำ หรือเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งแม่เอมมี่ก็ทราบดีค่ะว่าไม่มีทางที่ใครจะยอมรับด้วยความโมโหสุดแสนจะบรรยาย บวกกับภาพที่แม่เอมมี่เห็นว่ารถยนต์วิ่งมาทับเจ้าปลาบางตัวที่ยังไม่ตาย และแม่เอมมี่ก็มาช่วยมันไม่ทัน แม่เอมมี่ก็เลยต่อว่า และถ่ายรูปเก็บเอาไว้ทั้งหมด ในระหว่างที่ขับรถต่อไปก็คิดตลอดทางค่ะว่าแม่เอมมี่จะทำยังไงดี จะร้องเรียน หรือว่าจะช่วยเหลือสัตว์พวกนี้ได้อย่างไรดี เพราะแม่เอมมี่เชื่อว่ามันต้องมีครั้งต่อไปอีก ซึ่งแม่เอมมี่ก็ได้ส่งเรื่องราวพร้อมทั้งภาพทั้งหมดไปที่ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ จะได้ผลหรือไม่ จะร้องเรียนไปถูกที่หรือไม่แม่เอมมี่ก็ไม่ทราบค่ะ ครั้งแรกแม่เอมมี่คิดว่าต่อไปแม่เอมมี่จะไม่ขับรถมาทางนี้อีกแล้วเพราะมันสะเทือนใจมากและก็ไม่อยากจะเห็นอีก แต่ถ้าแม่เอมมี่ไม่ไปก็เหมือนกับแม่เอมมี่เห็นแก่ตัวเพียงเพราะไม่อยากเห็นภาพเหล่านั้นแต่อาจจะมีปลาอีกเป็นจำนวนมากที่อาจจะได้รับความช่วยเหลือจากแม่เอมมี่ หากแม่เอมมี่ขับรถไปทางนั้นอีก เป็นสิ่งเดี่ยวที่แม่เอมมี่สามารถทำได้ในตอนนี้เองค่ะ
เช้าวันนี้แม่เอมมี่ขอตั้งหัวข้อเรื่องที่หดหู่ใจไปสักหน่อย แต่ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น สำหรับแม่เอมมี่แล้ว แม่เอมมี่ว่ามันเป็นการทารุณสัตว์ และขอประนามการกระทำดังกล่าว (แอบสาปแช่ง) เริ่มจากเมื่อตอนบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมาขณะที่แม่เอมมี่กำลังขับรถไปห้างฯ ก็สังเกตุเห็นว่าบนพื้นถนนมีคล้ายๆเหมือนก้อนดินหล่นอยู่บนพื้นและตามไหล่ทางเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่สังเกตุจะเห็นว่าเหมือนเป็นก้อนดิน แต่พอแม่เอมมี่ขับรถมาใกล้ๆ เจ้าก้อนที่เห็นว่าเหมือนเป็นดินกลับดิ้นกุกกัก กุกกัก อยู่บนพื้นถนน แม่เอมมี่เลยชะลอรถเพื่อมองดูให้แน่ใจว่าคืออะไร ปรากฏว่าที่นอนกันเกลื่อนถนนนั่นคือปลาค่ะ ปลาอะไรแม่เอมมี่ไม่ทราบหรอกนะคะ แต่คิดว่ามันไม่น่าจะใช่ปลาที่จับมาเป็นอาหารได้ลักษณะตัวมันจะมีหนาม มีคีบอยู่บนลำตัวพอสมควรค่ะ คาดว่ามันน่าจะอาศัยอยู่สองข้างทางที่เป็นคลองตลอดระยะทาง 5-6 กิโลเมตรนั้น เนื่องจากแม่เอมมี่เห็นมีชาวบ้านมาจับปลาสองข้างทางที่เป็นลำคลองเป็นจำนวนมากทั้งตกเบ็ด ทอดแห ที่สำคัญแม่เอมมี่คิดแล้วจอดรถไว้ข้างทางทันที คิดว่ามันมาอยู่บนถนนและตามไหล่ทางได้อย่างไรมองจากภาพแล้วลักษณะเหมือนมีคนเหวี่ยงมันขึ้นมาเนื่องจากมันเป็นปลาที่ไม่น่าจะกินได้ อาจจะติดแหขึ้นมาแล้วเห็นว่ากินไม่ได้จึงเหวี่ยงไปทั่วแทนที่จะเหวี่ยงมันลงน้ำกลับไปอย่างเดิมเพื่อให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปของมัน แต่กลับเหวี่ยงมันขึ้นมาไว้บนถนนที่มีอุณหภูมิสูง และเสี่ยงต่อการถูกรถทับเป็นอย่างมาก แน่นอนค่ะปลาจำนวนมากที่ถูกเหวี่ยงขึ้นมาแล้วถูกรถที่วิ่งไปมาทับตาย บางตัวก็นอนดิ้นอยู่บนถนนและตามไหล่ทาง แม่เอมมี่อยากให้ลองนึกภาพตามกันดูนะคะว่ามันโหดร้ายขนาดใหน ปลาอาศัยอยู่ตามลำคลองตามปกติแต่กลับถูกเหวี่ยงขึ้นมาบนถนนเพื่อให้รถทับ เพียงเพราะเขากินไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ จากนั้นแม่เอมมี่ก็เลยหาแก้วน้ำพลาสติกที่ตกอยู่แถวนั้นได้มา 1 ใบ ก็พยายามไปช้อนเจ้าปลาที่นอนดิ้นอยู่บนถนนเฉพาะตัวที่มันยังไม่ตาย แล้วก็จับมันลงน้ำไปอย่างเดิม เวลาจับต้องคอยมองรถ คอยโบกรถให้หยุดก่อนด้วยค่ะ เพราะอันตรายมาก รวมทั้งตามไหล่ทางที่เห็นว่ามันยังมีชีวิตอยู่นับๆได้ก็ประมาณเป็นสิบๆตัวค่ะ ที่ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ทันก็ตายไปเยอะมากค่ะ จากนั้นแม่เอมมี่ก็ไล่ถามกลุ่มพวกที่จับปลาอยู่แถวนั้นว่าใครเป็นคนทำ หรือเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งแม่เอมมี่ก็ทราบดีค่ะว่าไม่มีทางที่ใครจะยอมรับด้วยความโมโหสุดแสนจะบรรยาย บวกกับภาพที่แม่เอมมี่เห็นว่ารถยนต์วิ่งมาทับเจ้าปลาบางตัวที่ยังไม่ตาย และแม่เอมมี่ก็มาช่วยมันไม่ทัน แม่เอมมี่ก็เลยต่อว่า และถ่ายรูปเก็บเอาไว้ทั้งหมด ในระหว่างที่ขับรถต่อไปก็คิดตลอดทางค่ะว่าแม่เอมมี่จะทำยังไงดี จะร้องเรียน หรือว่าจะช่วยเหลือสัตว์พวกนี้ได้อย่างไรดี เพราะแม่เอมมี่เชื่อว่ามันต้องมีครั้งต่อไปอีก ซึ่งแม่เอมมี่ก็ได้ส่งเรื่องราวพร้อมทั้งภาพทั้งหมดไปที่ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ จะได้ผลหรือไม่ จะร้องเรียนไปถูกที่หรือไม่แม่เอมมี่ก็ไม่ทราบค่ะ ครั้งแรกแม่เอมมี่คิดว่าต่อไปแม่เอมมี่จะไม่ขับรถมาทางนี้อีกแล้วเพราะมันสะเทือนใจมากและก็ไม่อยากจะเห็นอีก แต่ถ้าแม่เอมมี่ไม่ไปก็เหมือนกับแม่เอมมี่เห็นแก่ตัวเพียงเพราะไม่อยากเห็นภาพเหล่านั้นแต่อาจจะมีปลาอีกเป็นจำนวนมากที่อาจจะได้รับความช่วยเหลือจากแม่เอมมี่ หากแม่เอมมี่ขับรถไปทางนั้นอีก เป็นสิ่งเดี่ยวที่แม่เอมมี่สามารถทำได้ในตอนนี้เองค่ะ
|